สังคมสูงวัย...ทำไมต้องเริ่มดูแลสุขภาพตั้งแต่วันนี้

ประเทศไทยก็เหมือนกับหลายประเทศทั่วโลก กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงด้านประชากรศาสตร์อย่างมีนัยสำคัญ โดยมีประชากรสูงวัยเพิ่มมากขึ้น องค์การสหประชาชาติคาดการณ์ว่าภายในปี 2583 คนไทยหนึ่งในสี่จะมีอายุเกิน 65 ปี สังคมสูงวัยนี้ก่อให้เกิดความท้าทายหลายประการ รวมถึงความต้องการบริการด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้น การปฏิรูปเงินบำนาญ และความต้องการการดูแลทางสังคม

ความท้าทายด้านการดูแลสุขภาพ

ประชากรสูงวัยในประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะสร้างแรงกดดันมหาศาลต่อระบบการรักษาพยาบาล ผู้สูงอายุมักมีความต้องการด้านสุขภาพที่ซับซ้อน รวมถึงภาวะเรื้อรังและการเจ็บป่วยหลายอย่าง ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการดูแลและการรักษาพยาบาลในระยะยาว ความต้องการด้านการดูแลสุขภาพที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้โครงสร้างพื้นฐานด้านการดูแลสุขภาพที่มีอยู่ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ส่งผลให้ต้นทุนการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น และอาจส่งผลต่อคุณภาพการดูแลที่ลดลง

ผลกระทบทางเศรษฐกิจ

สังคมสูงวัยยังมีผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างมาก ด้วยจำนวนพนักงานที่ลดลงและจำนวนผู้เกษียณอายุที่เพิ่มขึ้น จึงมีศักยภาพในการลดประสิทธิภาพการผลิตและการเติบโตทางเศรษฐกิจ ความต้องการบริการดูแลผู้สูงอายุและการดูแลสุขภาพที่เพิ่มขึ้นยังสามารถเปลี่ยนทรัพยากรจากภาคส่วนสำคัญอื่นๆ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ

มาตรการด้านสุขภาพเชิงรุกเป็นสิ่งจำเป็น

เมื่อพิจารณาถึงความท้าทายที่กำลังจะเกิดขึ้นของสังคมผู้สูงอายุ จำเป็นอย่างยิ่งที่แต่ละบุคคลจะต้องนำมาตรการด้านสุขภาพเชิงรุกมาใช้ตั้งแต่อายุยังน้อย โดยการออกกำลังกายเป็นประจำ การรับประทานอาหารที่สมดุล นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ตรวจสุขภาพร่างกายเป็นประจำ และการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น การสูบบุหรี่และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป

การดูแลสุขภาพในปัจจุบันสามารถลดความเสี่ยงต่อภาวะสุขภาพที่รุนแรงในอนาคตได้อย่างมาก จะช่วยลดภาระทั้งต่อตัวบุคคล ระบบการรักษาพยาบาล และสังคมได้ นอกจากนี้ยังการดูแลสุขภาพตั้งแต่เนิ่น ๆ สามารถนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในบั้นปลาย ช่วยให้สามารถทำกิจวัตรต่าง ๆ ช่วยเหลือตัวเอง ทำกิจกรรมที่ชอบไปได้อีกนาน