ศ.นพ.นิธิ มหานนท์
เครื่องกระตุ้นการทำงานของหัวใจหรือ EECP ถือว่าเป็นนวัตกรรมที่น่าตื่นเต้นและมหัศจรรย์ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้จักทั้งๆ ที่มีการใช้กันมานาน และได้ผลมากกว่า 80% ในคนไข้ที่มีหัวใจล้มเหลว หัวใจขาดเลือด หรือหลอดเลือดหัวใจตีบที่ไม่อยากหรือไม่สามารถรักษาด้วยการผ่าตัดได้
EECP มีความปลอดภัย
ประโยคนี้มีความหมายมาก เพราะหมายถึงว่าปลอดภัยทุกกรณี ไม่มีข้อยกเว้น ไม่มีแต่ ไม่มีเงื่อนไข จะกี่พันคนที่รักษาด้วยเครื่อง EECP ก็ยังไม่มีใครเสียชีวิตจากการรักษา ประสบปัญหา หรือเกิดผลข้างเคียงเลยแม้แต่คนเดียว (บางครั้งที่คนไข้ผิวบางมากๆ อาจจะแค่มีผื่นรอยแดงๆ ที่ผิวหนังเท่านั้น) และเครื่อง EECP ก็ไม่ส่งผลเสียต่อหัวใจ ปอด สมอง หรืออวัยวะอื่นๆ ไม่ก่อให้เกิดหัวใจวาย ที่จริงแล้ว อย. ที่สหรัฐอเมริกายังแนะนำอีกด้วยว่าให้ใช้ EECP ในการรักษาอาการหัวใจวาย และ EECP ไม่ก่อให้เกิดเส้นเลือดในสมองแตก ความพิการ หรือเลือดออกผิดปกติ ทำให้ต่างจากการรักษาโรคหัวใจด้วยวิธีอื่นๆ
ความปลอดภัยของ EECP นั้นแน่นอนและเป็นที่ยอมรับกันในวงการแพทย์ มีวิธีอื่นอีกหรือที่ไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงหรือผลข้างเคียงเลย
ไม่ต้องพักฟื้น
เนื่องจาก EECP เป็นวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัด เป็นการรักษาแบบผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยจึงสามารถนัดได้ตามสะดวก ไม่ต้องเตรียมการรักษา ไม่ต้องพักฟื้น และไม่กระทบชีวิตประจำวัน คนไข้หลายคนแวะมารักษาก่อนไปทำงาน หรือใช้ช่วงพักเที่ยง หรือเวลาไหนก็ตามที่สะดวก เมื่อเสร็จแล้วก็กลับบ้านได้เลย สามารถไปทำงานต่อ ไปช้อปปิ้ง หรือทำกิจกรรมอะไรก็ได้
ได้ผลจริง
มีบทความนับร้อยและงานวิจัยอีกมากมายที่สรุปว่า EECP มีประสิทธิภาพสูงมากในการบรรเทาหรือรักษาอาการเจ็บหน้าอก หายใจไม่ทัน เหนื่อย หรืออาการอื่นๆ นอกจากนี้ EECP ยังช่วยให้ออกกำลังกายและออกแรงได้มากขึ้น ช่วยให้โลหิตไหลเวียนสู่หัวใจดีขึ้น ผลการตรวจ stress test ดีขึ้น สุขภาพจิตดีขึ้น และคุณภาพชีวิตดีขึ้นโดยรวม สามารถเปลี่ยนชีวิตผู้ป่วยโรคหัวใจได้แม้กระทั่งคนที่เป็นหนักจนไม่สามารถกินอาหารหรือแต่งตัวเองได้ เมื่อรักษาแล้วกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ
ผลการรักษาระยะยาว
จากการศึกษาพบว่าผลดีของ EECP สามารถคงอยู่ได้หลายปี ช่วยในเรื่องการไหลเวียนโลหิตสู่หัวใจ ทำให้ผู้ป่วยทำกิจกรรมได้มากขึ้น และเมื่อทำกิจกรรมมากขึ้นก็ยิ่งแข็งแรง ที่น่าสนใจไปกว่าผลด้านการรักษาก็คือด้านการป้องกันโรค คนที่รักษาด้วย EECP เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ได้รักษาแล้วพบว่าจะไม่ค่อยเกิดภาวะหัวใจวายหรือต้องเข้าโรงพยาบาล และผลดังกล่าวกินระยะเวลาหลายปี
คนที่เป็นโรคหัวใจบางคนรักษามาแล้วหลายวิธี ไม่ว่าจะบายพาส ใส่ขดลวด หรือทำบอลลูน ก็มักจะคิดว่าการรักษาโรคหัวใจเป็นเรื่องยุ่งยากและเจ็บตัว เมื่อมีวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัดก็มักจะคิดว่าเป็นวิธีที่ต้องทำซ้ำหลายๆ รอบ แต่การรักษาแบบ EECP นั้นช่วยเรื่องการไหลเวียนโลหิตและเสริมความแข็งแรงให้แก่หลอดเลือด เป็นหนึ่งในวิธีที่จะช่วยให้ผู้ป่วยหลุดจากวงโคจร ป่วย ผ่าตัด พักฟื้น และกลับมาป่วยอีก เมื่อไม่ต้องพักฟื้นแล้วไม่ต้องกลับมาป่วยอีกก็สามารถทำอะไรกับชีวิตได้มากขึ้น
แต่ต้องยอมรับว่า ยังไม่มีผลการศึกษาที่บอกว่า EECP ลดอัตราการเสียชีวิตลงได้… แต่การลดอัตราการเสียชีวิตหมายถึงอะไร ถ้าระหว่างมีชีวิตอยู่เรามีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าให้เหมือนไม่เจ็บจากโรคหัวใจ
EECP ไม่ต้องผ่าตัด
การรักษาโรคหัวใจบางวิธีก็โฆษณาว่าผ่าตัดแผลเล็กมาก หรือแทบไม่มีแผล แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ว่าจะเป็นเข็มขนาดเล็ก ปลายมีด หรืออะไรก็แล้วแต่ ถือว่าเป็นการ “ผ่า” หรือ “ตัด” และเมื่อมีการเปิดผิวหนังก็เพิ่มความเสี่ยงให้แก่ร่างกาย ในปัจจุบัน EECP เป็นวิธีรักษาโรคหัวใจวิธีเดียวที่ไม่ต้องผ่าตัดเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่ใช้ยา ไม่ใช้เข็ม ไม่สอดสายยาง ไม่ใช้มีด ไม่รุกรานร่างกายด้วยวิธีใดทั้งสิ้น กระบวนการทั้งหมดทำอยู่ภายนอกเท่านั้น จึงทำให้ปลอดภัยมาก
ไม่เจ็บ
ใครก็ตามที่เห็นเครื่อง EECP ครั้งแรกมักจะบอกว่าหน้าตาประหลาด เพราะว่าคนไข้จะต้องนอนบนสายวัดความดันที่เดี๋ยวยุบเดี๋ยวพองตามจังหวะหัวใจ จึงดูแล้วเหมือนเด้งขึ้นเด้งลงอยู่บนเตียง ความรู้สึกระหว่างรักษาก็เหมือนนอนอยู่บนลูกโป่งที่ยุบและพองช้าๆ เป็นจังหวะ
EECP เป็นการรักษาที่สบายมากจนคนไข้หลายคนรักษาอยู่ๆ ก็หลับไปเลย แถมกรนอีกด้วยก็มี ไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดใดๆ ทั้งสิ้น ไม่รู้สึกอะไรที่หัวใจหรือในหน้าอก คนไข้คนหนึ่งบรรยายความรู้สึกไว้ว่าเหมือนมีหมอนวด 6 คนมานวดพร้อมๆ กันที่ขา ระหว่างรักษาคนไข้บางคนก็อ่านหนังสือ ฟังเพลง หรือนั่งคุยไปด้วยพลางๆ เมื่อรักษาเสร็จก็จะรู้สึกสดชื่น บางคนรู้สึกมีความสุข คล้ายๆ กับเพิ่งออกกำลังกายเสร็จใหม่ๆ ทั้งๆ ที่ไม่เหนื่อยเลย
ผมรู้ว่าความรู้สึกเป็นอย่างไรเพราะว่าเทรนพนักงานมากับมือ ทั้งๆ ที่ผมไม่ได้เป็นโรคหัวใจ ผมบอกได้เลยว่ารู้สึกสบายมาก แถมเลือดไหลเวียนดีอีกด้วย
EECP เหมาะกับแทบจะทุกคน
ผมรักษาคนไข้ด้วย EECP มากว่าสองพันรายแล้ว สรุปได้เลยว่าประสบความสำเร็จสูงมาก คนไข้มีตั้งแต่อายุ 36 ไปจน 97 รูปร่างก็มีทั้งผอม หนักแค่ 82 ปอนด์ หรือตัวใหญ่น้ำหนัก 489 ปอนด์ก็มี แม้ว่าการรักษาจะเป็นวิธีที่ง่าย แต่ผลที่ได้ในแต่ละคนก็ต่างกันไป ขึ้นอยู่กับรูปร่างและความสมบูรณ์ของร่างกายด้วย บางโรคก็ต้องอาศัยความระวังเป็นพิเศษ ดังนั้นการรักษาแบบ EECP นั้นต้องพิจารณาเป็นรายบุคคล ก่อนรักษาจะต้องดูประวัติการรักษา พูดคุยอย่างละเอียด และทำการทดสอบร่างกายเพื่อดูว่ามีอะไรต้องระวังเป็นพิเศษหรือไม่ ผมเคยรักษามาแล้วทั้งคนที่ถูกตัดแขน คนที่เคยเป็นมะเร็ง คนที่ต้องอาศัยเครื่องอ็อกซิเจน คนที่ต้องล้างไต คนที่ผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจหรือเปลี่ยนไต คนเป็นกระดูกพรุน ผ่าตัดลำไส้ใหญ่ ผ่าเข่า ผ่าสะโพก กระทบกระเทือนที่คอหรือกระดูกสันหลัง และอื่นๆ อีกมากมาย เคยแม้กระทั่งรักษาคนที่ขาเข้าเฝือกอยู่ การปรับการรักษาให้เข้ากับแต่ละคนช่วยให้ EECP ได้ผลกับทุกคนเลยก็ว่าได้
EECP ดีต่อความรู้สึก
เมื่อร่างกายรู้สึกดี จิตใจก็ดีไปด้วย มีงานวิจัยหลายงานพบว่าหลังรักษาด้วย EECP แล้วคนไข้มีคุณภาพชีวิตและสุขภาพจิตดีขึ้น คนไข้ของผมหลายคนดูสดชื่นขึ้นมาก เนื่องจากเลือดไหลเวียนดีขึ้น และร่างกายแข็งแรงขึ้นก็ทำให้มีความสุขได้เช่นกัน นอกจากนี้มีรายงานจากเมืองจีนที่มีการใช้เครื่องนี้กันมากที่สุดประเทศหนึ่งว่า EECP ช่วยเรื่องสมรรถภาพทางเพศ ช่วยเรื่องสมองขาดเลือด หรืออัมพฤกษ์ได้อีกด้วย
EECP ลบคำว่าเป็นไปไม่ได้
การรักษาแบบ EECP นั้นทำให้คนไข้นอนไปด้วย ออกกำลังกายไปด้วยได้ ฟังแล้วเหมือนจะเป็นไปไม่ได้แต่ก็เป็นไปแล้ว EECP คือการออกกำลังกายแบบไม่ต้องขยับตัว เมื่อสายรัดบีบและคลายตัวตามจังหวะหัวใจก็จะช่วยเรื่องการไหลเวียนโลหิต ทำให้ได้ประโยชน์เหมือนกับการออกกำลังกาย กระตุ้นเส้นเลือดทั่วร่างกายให้ทำงานและแข็งแรงขึ้น ส่งเลือดไปเลี้ยงเซลล์ต่างๆ ได้ดีขึ้น ถือว่าเป็นประโยชน์มากสำหรับคนที่เป็นโรคหัวใจเพราะส่วนใหญ่จะใช้ชีวิตธรรมดาก็ยังลำบาก เช่นเดิน ขึ้นบันได หรือถือของหนักๆ จะให้ออกกำลังกายหนักๆ ก็คงจะไม่ไหว แต่การรักษาด้วย EECP ทำให้เลือดไหลเวียนดีเหมือนหลังออกกำลังกาย ทั้งๆ ที่นอนอยู่ และไม่เจ็บตัวอีกด้วย
ไม่มีผลเสีย
อ่านถึงตอนนี้อาจจะฟังดูเหมือนว่ามันดีจนไม่น่าเชื่อ แต่เป็นความจริงครับ EECP ไม่มีผลเสียเลย ปัญหาใหญ่สุดที่คนไข้ผมเจอมาก็คือหาที่จอดรถไม่ได้ ล้อเล่นครับ ที่มีปัญหาก็คือเรื่องการจัดตารางเวลาเพื่อมาหาหมอทุกวันในการรับการรักษา แต่เมื่อเริ่มทำแล้วก็จะรู้สึกดี และรู้สึกว่าเป็นเรื่องสำคัญกว่าสิ่งอื่นๆ ที่ต้องทำในวันนั้น เคยมีคนไข้ที่ทำแล้วเลิกทำแค่ 5% เท่านั้นครับ
บางคนอาจจะมีรอยแดงๆ ที่ขา เกิดจากสายรัด วิธีแก้ก็คือให้ใส่กางเกงยืดรัดรูป เพื่อลดการเสีดสีและลดการเกิดรอยแดง คนที่ผิวบอบบางเป็นพิเศษ (อาจจะจากโรคเบาหวานหรือโรคอื่นๆ) ก็ควรทาครีมทุกวันและใส่ถุงน่องแล้วสวมกางเกงออกกำลังกายทับอีกชั้นเพื่อเสริมการป้องกัน การรัดสายรัดอย่างถูกวิธีก็ช่วยได้ครับ หรือบางกรณีอาจต้องใช้ตัวช่วยเช่นแผ่นโฟมหรือยาง
คนที่ปวดหลังช่วงล่างอาจจะรู้สึกอาการกำเริบในช่วงแรกๆ ของการรักษา แต่สักพักก็จะหายไปครับ เพราะว่ากระดูกสันหลังและเนื้อเยื่อรอบๆ ได้รับเลือดเพียงพอ และการไหลเวียนโลหิตจะช่วยชะล้างสารเคมีต่างๆ ออกจากร่างกาย รวมทั้งสารเคมีที่ส่งสัญญาณความรู้สึกเจ็บไปที่สมองด้วย