การรักษาอัลไซเมอร์ในปัจจุบันมั
กเน้นไปที่การใช้ยาและการฝึ กสมอง (cognitive training) ซึ่งเป็นวิธีที่เจาะจงไปที่ กลไกเดียว เช่น การใช้ยาเพื่อเพิ่มสารสื่ อประสาท acetylcholine ในสมอง หรือฝึกการทำงานเฉพาะด้ านของสมอง เช่น ความจำ หรือการตัดสินใจ (executive function) ซึ่งแม้ว่าจะมีประโยชน์ แต่ก็ยังช่วยส่งเสริ มความสามารถในการทำกิจวั ตรประจำวัน (ADL) และคุณภาพชีวิตได้เพียงเล็กน้ อยเท่านั้น ในทางตรงกันข้าม การออกกำลังกายมีศักยภาพสู
งในการรักษาและป้องกันโรคอั ลไซเมอร์ โดยการออกกำลังกายเพื่อรักษาอั ลไซเมอร์มี 3 รูปแบบที่สำคัญได้แก่ การออกกำลังกายแบบแอโรบิก (Aerobic exercise) การออกกำลังกายแบบมีแรงต้าน (Resistance exercise) และการฝึกจิตใจและร่างกาย (Mind-body exercise) ซึ่งทั้ง 3 รูปแบบมีส่วนสำคัญในการส่งเสริ มการทำงานของสมอง และช่วยชะลอหรือป้องกันการเกิ ดโรคอัลไซเมอร์ได้ 1) Aerobic exercise
การออกกำลังกายแบบแอโรบิก เช่น เดินเร็ว ว่ายน้ำ หรือขี่จักรยาน มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปยังสมอง ซึ่งจะนำออกซิ เจนและสารอาหารไปเลี้ยงเซลล์ สมองอย่างเพียงพอ นอกจากนี้การออกกำลังกายชนิดนี้ ยังช่วยกระตุ้นการสร้าง BDNF (Brain-Derived Neurotrophic Factor) ซึ่งเป็นสารที่มีบทบาทสำคั ญในการพัฒนาของเซลล์ประสาท การเชื่อมต่อระหว่างเซลล์ประสาท (synaptic plasticity) และการปรับตัวของสมอง (neuroplasticity) และเพิ่ม mitochondrial function ทำให้สมองมีพลังงานเพี ยงพอในการทำงาน ซึ่งล้วนแล้วแต่ช่วยทำให้ สมองทำงานได้ดีขึ้น 2) Resistance exercise
การออกกำลังกายแบบมีแรงต้าน เช่น การยกน้ำหนัก มีบทบาทสำคัญในการรักษาความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูก ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการช่ วยเหลือตัวเองในกิจวัตรประจำวัน ช่วยป้องกันโรคร่วมที่พบบ่ อยในผู้สูงอายุ เช่น กล้ามเนื้อน้อย (sarcopenia) กระดูกพรุน (osteoporosis) และการหกล้ม นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการหลั่ งสาร BDNF และ growth hormone ซึ่งช่วยในการฟื้นฟูเซลล์ประสาท การออกกำลังกายแบบนี้ยังถือว่
าเป็นกิจกรรมที่ซับซ้อน (complex task) ที่ต้องใช้ทักษะหลายด้าน เช่น การประสานงานระหว่างส่วนต่างๆ ของร่างกาย สมาธิ การตัดสินใจ และความจำ ซึ่งช่วยกระตุ้นสมองในลักษณะที่ คล้ายกับ cognitive training 3) Mind-body exercise
การออกกำลังกายที่เน้นความสัมพันธ์ระหว่างจิตใจและร่างกาย เช่น โยคะ ไทเก๊ก หรือการทำสมาธิ (meditation) มีประโยชน์ในด้านการลดความเครี ยด การปรับปรุงการนอนหลับ และการลดความกังวล ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงที่มี ผลกระทบต่อการดำเนินโรคของโรคอั ลไซเมอร์ การออกกำลังกายประเภทนี้ยังช่ วยส่งเสริมการทำงานของสมองในส่ วนที่เกี่ยวข้องกับการควบคุ มอารมณ์ ช่วยลดปัญหาภาวะซึมเศร้าและปั ญหาพฤติกรรมในผู้ป่วยสมองเสื่อม กล่าวได้ว่า การออกกำลังกายไม่ได้เพียงแค่ป้
องกันและรักษาอัลไซเมอร์ผ่ านกลไกใดกลไกหนึ่งหมือนยา แต่มันสามารถทำงานผ่านหลายเส้ นทางพร้อมกัน เสมือนกับการใช้ยาหลายชนิดที่ส่ งเสริมกันและกัน (polypill) ส่งผลให้สมองแข็งแรงขึ้ นในระยะยาว และที่สำคัญคือช่วยให้ผู้ป่วยอั ลไซเมอร์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรมได้ที่ LINE สวนสุขภาพอรุณสหคลินิก
สวนสุขภาพอรุณสหคลินิก ยินดีให้คำปรึกษาและพร้อมแนะนำโปรแกรมที่เหมาะสมให้แก่คุณ
LINE Official : @arunhealthgarden https://lin.ee/kVkb3zA
โทร : 02-717-4441 หรือ 094-812-7722
Facebook : Facebook.com/arunhealthgarden
Instagram : https://www.instagram.com/arunhealthgarden/
เปิดบริการวันอังคาร – อาทิตย์
เวลา 09:00 – 18:00
ที่อยู่ : 54/1 ซอยธารารมณ์4 ถนนรามคำแหง9 แขวงพลับพลาเขตวังทองหลางกรุงเทพฯ 10310