บทความ วันนี้ถือเป็นการทดสอบหรืออาจจะใช้คำว่าท้าทายความสามารถของท่านผู้อ่าน ที่จะบูรณาการภาคทฤษฏีที่ยากสู่ภาคปฏิบัติที่เรียบง่าย เพราะเราจะเสนอ “ออฟฟิศ โยคะ” ชำระอาการ “ออฟฟิศ ซินโดรม” ที่ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดเมื่อย อ่อนล้า ฝืดขัดร่างกาย และเครียด ไม่ต้องกังวลว่ายากและยาว เพราะได้ตัดตอนความยาวเพื่อสอดคล้องกับเงื่อนไขของเวลาและดัดแปลงความยากให้ เข้าคอนเซ็ป 5 ส. สะดวก สบาย สงบ สง่า และสนุก ด้วย 5 ท่าโยคะที่ประสานกายกับใจ ถ้าอ่านจบแล้วแก้ตัวว่ายากทำไม่ได้ คงไม่ต้องทำอะไรกันแล้วชาตินี้ (แรงไปมั๊ยนี่) ถ้ารู้ว่าหวังดีคงไม่แรงนะครับ เอาละมาออกลีลากันดูดีกว่า
ท่าที่ 1 เป็นการฝึกการหายใจ
เข้า – ออกที่ถูกต้อง เพื่อเสริมสร้างสมาธิ คือ หายใจเข้า – ท้องพอง เพื่อให้ได้ออกซิเจนมากๆ หายใจออก – ท้องแฟบ เพื่อขับอากาศเสียออกจากร่างกาย ช่วยลดความตึงเครียดของร่างกายและจิตใจ
ท่าที่ 2 ท่านักรบ
ยืนตรง เหยียดแขนตรงเหนือศีรษะฝ่ามือประกบกัน ก้าวขาหนึ่งไปข้างหน้าค่อยๆย่อเข่าลง เป็นการยืดด้านหน้าของร่างกายทั้งหมด รวมถึงกล้ามเนื้อหน้าอกและหน้าท้อง นอกจากเป็นการคลายกล้ามเนื้อด้านหน้า ยังทำให้หายใจสะดวก ลดอาการท้องอืด แล้วยังสร้างความสมดุลของร่างกาย
ท่าที่ 3 ท่าศีรษะชานุ
ยืนตรง โน้มก้มตัวเอามือลู่ไปตามด้านหลังขาช้าๆจนศีรษะชิดหัวเข่า เป็นการยืดคลายกล้ามเนื้อด้านหลังทั้งหมด กระตุ้นการทำงานของอวัยวะภายในช่องท้องแก้อาการท้องผูก ช่วยแก้ไขโรคเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร และช่วยลดอาการปวดหลัง
ท่าที่ 4 ท่าพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว
ยืนตรงประกบมือยืดแขนตรงเหนือศีรษะ ค่อยๆเอียงตัว
ไปด้านข้างช้าๆแล้วกลับมายืนตรงทำซ้ำโดยเอียงตัวไปด้านตรงข้ามเป็น
การยืดกล้ามเนื้อด้านข้างลำตัว กล้ามเนื้อชายโครง และยืดกระดูกกดสันหลัง
ท่าที่ 5 ท่านกอินทรีย์
ยืนตรง มือสองข้างจับกัน เอาศอกขวาไขว้ศอกซ้าย เข่าขวาไขว้เข่าซ้าย แล้วค่อยๆย่อตัว กลับมายืนตรงแล้วทำสลับข้าง เป็นท่ายืดกล้ามเนื้อเพื่อ
ลดอาการปวดเมื่อยหัวไหล่และสะบักด้านบน ยืดกล้ามเนื้อสะโพกด้านล่าง ท่านี้ยากนิดแต่เท่ห์จัง
และจะถือว่าสมบูรณ์แบบต้องจบด้วยฝึกหายใจเช่นเดียวกับตอนเริ่มต้น ออฟิศโยคะ ที่กล่าวมาใช้เวลาเล็กน้อยไม่ถึง 10 นาที โดยทำท่าละ 3-5 ครั้ง มีความปลอดภัยสูง ใครที่ทนทุกข์กับ ออฟฟิศ ซินโดรม ลองฝึกดู ทำทุกวันแล้วจะรู้ว่าสุขภาพดีหาซื้อไม่ได้ แต่ทำเองได้ แถมง่ายและสนุกจัง อีกทั้งยังทำให้บรรยากาศในออฟฟิศมีชีวิตชีวา ส่วนผู้ที่มีปปัญหาสุขภาพก็ตามเคยคือขอคำแนะนำจากแพทย์ก่อนนะครับ
นพ.ประดิษฐ์ ประทีปะวณิช