Inner Balance Training เป็นการรักษาความเครียดโดยใช้หลักการ Biofeedback คือการเรียนรู้สรีรวิทยาของร่างกายที่มีการตอบสนองต่อสิ่งต่างๆ โดยใช้เครื่องมือที่วัดการตอบสนองของร่างกายมาช่วย ตัวอย่างของเครื่อง Biofeedback ที่ใช้กันในชีวิตประจำวันเทอร์โมมิเตอร์ เช่น วัดไข้ เครื่องวัดชีพจร เป็นต้น สำหรับ IBT ใช้สรีระวิทยาของการหายใจมาใช้ในการฝึกเพื่อรักษา ความเครียด
ความเครียดก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายอย่างไร
จากการศึกษาทางการแพทย์พบว่าความเครียดมีความเกี่ยวเนื่องกับสุขภาพและโรคภัยไข้เจ็บหลายชนิด เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคอ้วน หอบหืด ซึมเศร้า ปวดเรื้อรัง ระบบภูมิคุ้มกันผิดปกติ ระบบทางเดินอาหาร ปวดศีรษะเรื้อรัง ไมเกรน เป็นต้น นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ที่เครียดเรื้อรังจะเสียชีวิตเร็วกว่าคนทั่วไป ความเครียดไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของจิตใจ อย่างที่คนส่วนใหญ่เข้าใจ เพราะเมื่อมีความเครียดเกิดขึ้น ร่างกายจะตอบสนองด้วยการทำงานของทุกระบบ เช่น หัวใจเต้นเร็ว ความดันโลหิตสูง หายใจเร็ว หลอดเลือดบีบตัว ระบบการทำงานของต่อมไร้ท่อผิดปกติ เช่น ฮอร์โมนคอร์ติซอล รวมทั้งฮอร์โมนอื่นๆ ที่ควบคุมการทำงานของสมอง ระบบย่อยอาหาร เป็นต้น ซึ่งการทำงานของอวัยวะภายในเหล่านี้ส่วนใหญ่ควบคุมด้วยระบบประสาทอัตโนมัติ
ฝึกเพื่ออะไร
Inner Balance Training เป็นการฝึกการปรับสมดุลระบบประสาทอัตโนมัติ ที่ควบคุมการทำงานของอวัยวะภายใน รวมทั้งอารมณ์และความรู้สึก การทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติจะเป็นไปโดยอิสระอยู่นอกการสั่งการของสมอง และจิตใจ เช่นการเต้นของหัวใจ การย่อยอาหาร การหายใจ เป็นต้น ระบบประสาทอัตโนมัติแบ่งง่ายๆ เป็น 2 ประเภท คือ ระบบประสารทซิมพาเธติก และระบบประสาทพราราซิมเธติก ซึ่งจะทำงานประสานกัน ในลักษณะตรงกันข้าม เช่น ระบบประสาทซิมพาเธติก จะทำให้หัวใจเต้นเร็ว ในทางกลับกัน ระบบประสาทพาราซิมเธติกทำให้หัวใจเต้นช้าลง เป็นต้น แต่ทั้งนี้การทำงานของทั้งสองระบบต้องมีสมดุลที่ดีถึงจะมีสุขภาพที่ดีได้ โรคหลายชนิดที่ขาดสมดุลก็จะทำให้เกิดการขาดสมดุลของระบบประสาทอัตโนมัติ ในขณะ เกิดอาการหรือความผิดปกติของร่างกายได้ เช่น นอนไม่หลับ อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย เครียด ความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นเร็ว อาการปวดเรื้อรัง เป็นต้น
กราฟแสดงการฝึก
เมื่อระบบประสาทอัตโนมัติของผู้ ถูกฝึกสมดุลดีขึ้น จะแสดงเป็นคลื่นกราฟ (ความเครียดลดลง) รูปซายน์ ในรูปแบบเดียวกัน (Coherence pattern) ในทางตรงกันข้ามถ้าระบบประสาทยังไม่สมดุลกราฟจะแสดงเป็นรูปแตกต่างกัน ไม่สม่ำเสมอเป็นรูปแบบเดียว) Non-coherence pattern)
Positive emotion change : สภาวะอารมณ์ที่ปรับไปในทางที่ดีขึ้น คลื่นรูปแบบเดียวกันสม่ำเสมอ
Negative emotional change : สภาวะอารมณ์ที่ไปในทางที่ไม่ดี คลื่นการตอบสนองแตกต่างกัน ไม่สม่ำเสมอ
เมื่อฝึกจนเกิดความสมดุลแล้ว จะเห็นกราฟภาพจังหวะการเต้นของหัวใจ ประสานกันเป็นเส้นกราฟในรูปคลื่นไซน์ที่สวยงาม ซึ่งเป็นเป้าหมายของการฝึกที่จะนำไปสู่สุขภาพที่ดี จากการศึกษาทางการแพทย์พบว่าการฝึก Inner Balance Training จะช่วยลดความเครียด นอนหลับได้ง่ายและหลับสนิทขึ้น ช่วยในการควบคุมความดันโลหิต นอกจากนี้ยังช่วยปรับระดับการประสานการทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติและ ฮอร์โมนในร่างกาย ซึ่งเป็นระบบที่ส่งผลควบคุมการทำงานของระบบส่วนใหญ่ของร่างกาย เช่น สมอง และ ต่อมไร้ท่อ ผู้ฝึกจะใช้เวลาในการฝึก 45 นาที ควรทำการฝึกต่อเนื่องอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง 4-8 ครั้งต่อเนื่อง และในแต่ละวันควรฝึกด้วยตนเองที่บ้านอย่างน้อย 5-15 นาที ต่อวัน ตามคำแนะนำของผู้ฝึก